ในวิถีชีวิตการทำงานในปัจจุบัน ผู้คนใช้เวลาส่วนมากไปกับการนั่งทำงานในระยะเวลานาน และหลายๆ ครั้งเอง ก็ยังมีการประชุมที่สำคัญ และไม่สามารถออกจากการประชุมได้ จึงอาจจะทำให้เกิดพฤติกรรมที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ เช่น การกลั้นอุจจาระเป็นเวลานาน เนื่องจากการทำงานและการเดินทาง หรือการรับประทานอาหารประเภทแป้งมากจนเกินไปจนมีอาการต่างๆ เช่น

  • 😥ปวดท้องแบบบีบๆ
  • 😣เวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน
  • 😞หายใจไม่อิ่ม หายใจไม่ทั่วท้อง
  • 😖รู้สึกถึงลมในท้องเยอะผิดปกติ
  • 😩ท้องอืด ท้องเฟ้อ ไม่สบายท้อง
  • 😔ท้องผูก ไม่ถ่ายหลายวัน
  • 😭อุจจาระก้อนเล็ก แข็ง อาจบาดทวารหนักจนมีเลือดปนออกมากับอุจจาระ
  • 😨รู้สึกว่าอุจจาระแล้ว แต่ยังไม่สุด ยังรู้สึกว่ามีอุจจาระเหลืออยู่ในท้อง ไม่โล่งสบายท้องเหมือนหลังอุจจาระตามปกติ

หากคุณมีอาการเหล่านี้ อาจเข้าข่ายโรคขี้เต็มท้องหรืออุจจาระอุดตัน วันนี้เรามีปัจจัยเสี่ยงและแนวทางป้องกันมาบอกทุกคน เพราะคนที่มีระบบการขับถ่ายปกติดีทุกอย่าง ก็มีโอกาสเป็นโรคนี้ได้ ถือว่าเป็นภัยเงียบที่ส่งผลร้ายแรงต่อชีวิตได้

ปัจจัยหรือพฤติกรรมเสี่ยงสู่โรคนี้

  • รับประทานอาหารที่มีกากใยอาหารน้อยเกินไป
  • การดื่มน้ำไม่เพียงพอ ส่งผลทำให้อุจจาระแข็งและท้องผูก
  • รับประทานอาหารจำพวกแป้ง น้ำตาล และไขมัน มากเกินไป
  • ขาดการออกกำลังกาย ไม่ค่อยเคลื่อนไหวร่างกาย ซึ่งส่งผลต่อการทำงานของระบบขับถ่ายด้วย
  • เป็นผู้ป่วยที่ไม่สามารถขยับเขยื้อนร่างกายได้สะดวก เช่น ผู้ป่วยที่มีอาการผิดปกติที่กระดูกสันหลัง หรือผู้ป่วยติดเตียง
  • มีความผิดปกติของลำไส้ใหญ่ และไส้ตรง
  • มีโรคประจำตัวส่งผลถึงการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น โรคซึมเศร้า อัลไซเมอร์ ทำให้ขาดการดูแลอาหารการกินที่ดีต่อสุขภาพ

ผลข้างเคียงจากการรับประทานยาบางชนิด ที่ทำให้ลำไส้ลดการเคลื่อนไหวเป็นเวลานาน เช่น ยาแก้ปวดกลุ่ม NARCOTICS, ยาลดกรด, ยากลุ่มธาตุเหล็กหรืออยากลุ่ม CALCIUM CHANNEL BLOCKERS ซึ่งใช้รักษาโรคความดันโลหิตสูง

แนวทางในการรักษา 👨‍⚕️🧪

หากใครมีอาการตามข้างต้น ควรปรึกษาแพทย์ และไม่ควรซื้อยาถ่ายมาทานเองเด็ดขาด เพราะยาระบายอาจทำให้มีอาการหนักกว่าเดิม โดยที่แพทย์จะให้ยาระบายที่ไม่เป็นอันตรายต่อเชื้อแบคทีเรียที่เป็นประโยชน์ต่อลำไส้ เพื่อให้ร่างกายขับอุจจาระออกมาให้ได้มากที่สุดอย่างปลอดภัย

5 วิธีป้องกันภาวะอุจจาระอุดตัน หรือโรคขี้เต็มท้อง

  1. ไม่กลั้นอุจจาระบ่อยๆ และฝึกถ่ายอุจจาระให้เป็นเวลา
  2. ดื่มน้ำมากๆ ให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย (จิบน้ำไปเรื่อยๆ ทั้งวัน ไม่ใช่การดื่มน้ำจำนวนมากในครั้งเดียว)
  3. รับประทานผักผลไม้ ธัญพืชต่างๆ ให้มากขึ้น เพื่อเพิ่มกากใยอาหาร
  4. ลดการรับประทานอาหารที่มีแป้ง น้ำตาล และไขมันสูงจนเกินไป
  5. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบขับถ่ายได้

จะเห็นว่าโรคขี้เต็มท้องเป็นผลมาจากพฤติกรรมของเราเองทั้งนั้น หากคุณรับประทานอาหารพวกแป้ง น้ำตาล และไขมันมากๆ แต่ทานผักและผลไม้น้อย แบคทีเรียที่ดีในลำไส้ก็จะลดน้อยลงไปด้วย ทำให้ระบบขับถ่ายและการดูดซึมสารอาหารที่มีประโยชน์แย่ลงไปอีก ดังนั้น นอกจากคุณจะรับประทานผักและผลไม้มากขึ้น คุณควรทานอาหารที่มีโพรไบโอติกส์เสริม เพื่อปรับสมดุลในลำไส้ เพิ่มจุลินทรีย์ที่ดีเพื่อช่วยระบบขับถ่ายให้ทำงานได้ดีขึ้นด้วย

รู้ก่อน ป้องกันก่อน กับ Pancura clinic